ในการทำการตลาดออนไลน์ เว็บไซต์ถือเป็นสิ่งที่ร้านค้าเเละผู้ประกอบการต้องมี เเต่มาหลังๆเซลเพจ Salepage การรับความนิยมมากขึ้น ด้วยพฤติกรรมผู้ซื้อที่เปลี่ยนไปที่ต้องการได้รับข้อมูลครบถ้วนรวดเร็วตั้งเเต่ครั้งเเรกที่เข้ามารู้จักกับเเบรนด์
Salepage ต่างจากเว็บไซต์ยังไง?
Salepage คือเว็บไซต์ประเภทหนึ่ง เเต่เป็นเว็บไซต์ที่มีหน้าเดียว (อาจมีมากกว่านั้น เช่น หน้าตะกร้าสินค้า, หน้า Thank you หลังจากลูกค้าสั่งซื้อเรียบร้อย) เน้นให้ลูกค้าเลื่อนลง scroll เพื่อดูข้อมูลสินค้า นิยมใช้เวลาทำโฆษณาออนไลน์ ปกติจะเน้นโชว์ข้อมูลสินค้าเเค่ 1 อย่าง เหมือนเวลาเราคลิกไปที่หน้าสินค้านั้นโดยตรง ไม่จำเป็นต้องเข้ามาหน้าเเรก homepage ก่อน เเล้วต้องไปเลือกหมวดหมู่เเล้วจึงเลือกสินค้าอีกทีให้หลายขั้นตอน มีโอกาสเสี่ยงที่ลูกค้าจะออกไป (Drop off) ก่อนจะได้ดูรายละเอียดสินค้า
Salepage เหมาะกับธุรกิจอะไรบ้าง
จริงๆเเล้วทุกธุรกิจสามารถใช้ Salepage ได้ ธุรกิจที่ขายสินค้าราคาไม่สูงมากอาจสามารถขายผ่าน Salepage ได้เลย เช่น เครื่องสำอาง, อาหารเสริม, เสื้อผ้า, ของใช้ในบ้านทั่วไป, อุปกรณ์เเละเคสมือถือ (รวมถึงสินค้าดิจิตอล เช่น ไอดีเกมส์, e-book, คอร์สออนไลน์ บางเซลเพจรองรับการส่งลิงก์เพื่อดาวน์โหลดหรือไฟล์สินค้าดิจิทัลผ่านช่องทางอีเมล)
สำหรับธุรกิจที่ขายสินค้ามูลค่ามาก เช่น อสังหาริมทรัพย์, รถยนต์, คลินิกความงาม หรือถึงบริการมืออาชีพการให้คำปรึกษา, coaching, คอร์ส ใช้ Salepage เพื่อเข้าถึงเเละเก็บข้อมูลของผู้สนใจเพื่อติดต่อกลับไปเพื่อปิดการขายได้ ในรูปเเบบ Lead Generation
ใช้เครื่องมือทำการตลาดมืออาชีพได้เต็มที่ด้วย Salepage
เราสามารถทำ SEO ให้หน้าเซลเพจติดอับดับ Google ได้เลย หรือก๊อปปี้ลิงก์ Salepage ของสินค้านั้นๆ ไปใช้ทำโฆษณาโปรโมทสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Facebook Meta, Google ads, Intagram หรือ Tiktok ได้เหมือนเว็บไซต์ทั่วไป เเละ Salepage ยังรองรับการติดตั้ง Pixel รวมถึง Conversion API ได้ด้วย
ข้อดีของ Salepage
นอกจากนี้ Salepage ยังมีข้อดีในมุมของร้านเเละผู้ประกอบการอีกหลายข้อ
1. ประหยัดเวลา
การสร้างเซลเพจ Salepage ใช้เวลาน้อย เพราะไม่จำเป็นต้องสร้างหน้าหลักเเละเมนูมากมาย เราอัพเดทหน้าเซลเพจด้วยข้อมูลสินค้าที่เราต้องการขายเลย
2. ใช้งานง่าย โดยปกติ Salepage
ออกเเบบมาให้ผู้ขายหรือผู้ประกอบใช้งานง่ายคล้ายกับเว็บไซต์หรือ application ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในการสร้างเว็บไซต์ ไม่จำเป็นต้องเป็นโปรเเกรมเมอร์กับสามารถใช้งานได้ ต่างกับเว็บไซต์ที่จำเป็นต้องมีความรู้ในการจัดการดูเเลเว็บไซต์ในระดับนึง เช่น การจดโดเมน การเช่าโฮสติ้ง การตั้งค่าต่างๆ ซึ่งบางทีเราจำเป็นต้องจ้างโปรเเกรมเมอร์ทำให้ เเต่สิ่งเหล่านี้ผู้ให้บริการ Salepage จะเป็นผู้ดูเเลจัดการให้กับผู้ใช้งานอยู่เเล้ว
3. ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ร้านค้าเเละธุรกิจ
ในการขายของออนไลน์หลายๆร้านหรือธุกิจใช้สื่อโซเซียลมีเดียเพียงอย่างเดียว ซึ่งผู้ซื้ออาจไม่ค่อยไว้วางใจเท่าที่ควรถ้าเรามี Salepage จะทำให้เรามีโอกาสได้รับความหน้าเชื่อถือจากผู้ซื้อมากขึ้นเทียบกับคู่เเข่งในตลาดที่ไม่มี
4. ใช้เครื่องมือการทำการตลาดได้เต็มที่
อย่างที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ Salepage ส่วนใหญ่รองรับการใช้งาน Pixel หรือ Tracking ของ platform โซเซียลมีเดียชั้นนำ ซึ่งจะทำให้ผู้ขายเเละผู้ประกอบการใช้ความสามาถของเครื่องมือการตลาดที่เเต่ละ platform มีได้อย่างเต็มที่ เช่น
4.1. การนำข้อมูลลูกค้าเก่าไปสร้างกลุ่มเป้าหมายเพื่อทำโฆษณาที่การไปทุกที่ Retargeting – Remarketing
4.2 การนำกลุ่มลูกค้าเก่าไปสร้างกลุ่มเป้าหมายที่คล้าย (Lookalike Audience) เพื่อขยายการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆที่มีพฤติกรรมคล้ายกับลุกค้าเก่ามากที่สุด
4.3 การทำ Conversion API เพื่อเลี่ยงการปิดกั้นการเก็บข้อมูลการเข้าชม salepage ของ application หรืออุปกรณ์ที่ลูกค้าตั้งค่าไว้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่
ช่วยลดจำนวนการตอบเเชท เพราะลูกค้ากดสั่งซื้อได้เอง
ร้านค้าหรือผู้ประกอบการที่ขายสินค้าการเเชทอย่างเดียวอาจเจอปัญหาเเชทจำนวนมาก หลายๆครั้งลูกค้าพร้อมซื้อสินค้าทันที เเต่เมื่อมีช่องทางการขายผ่านเเชทอย่างเดียวก็จำเป็นต้องให้บริการตอบเเชทลูกค้าทุกคนโดยที่จริงๆเเล้วอาจไม่จำเป็น ในข้อนี้ Salepage สามารถช่วยได้
ข้อเสียของ Salepage มีมั้ย?
เเน่นอนกว่าเหรียญมี 2 ด้าน เเต่ข้อเสียโดยตรงต่อร้านหรือธุรกิจผ่านการใช้ Salepage ไม่มี อาจจะมีในมุมที่เป็นการเพิ่มขั้นตอนในการทำงานมากกว่าโดยรวม เเต่เเลกกับข้อดีตามที่กล่าวมาด้านบนมากกว่า
1. ต้องสร้างเเละลงข้อมูลใน Salepage ก่อนใช้งาน
การสร้างเซลเพจถึงจะสร้างได้ง่ายๆเเต่ก็จำเป็นต้องใช้เวลาในการสร้าง ทำให้เพิ่มเวลาเเละขั้นตอนในการทำงาน เเต่ในขั้นตอนนี้อาจสามารถว่าจ้างผู้ให้บริการ Salepage หรือว่าจ้างผู้อื่นเพื่อสร้างให้ได้
2. มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
เนื่องจาก Salepage เป็นบริการที่มีค่าให้จ่ายไม่เหมือน platform โซเชียลมีเดียที่มีบริการหลักคือการเก็บค่าโฆษณา เเละอนุญาติให้เราขายสินค้าได้ฟรีๆ ทำให้การใช้เซลเพจมีค่าบริการเพิ่มเติมเพื่อเเลกกับข้อดีที่จะได้รับตามที่กล่าวก่อนหน้านี้
3. จำเป็นต้องมีความรู้เบื้องต้นในการทำการตลาด
เเน่นอนว่าถ้าผู้ขายหรือผู้ประกอบการต้องการใช้ Salepage เป็นเครื่องมือการตลาดอีกช่องทาง ก็จำเป็นต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เช่น การทำโฆษณาเเบบ Conversion, การสร้าง Pixel เพื่อนำมาเชื่อมต่อกับ Salepage รวมถึงหลักการทำ SEO เพื่อให้เซลเพจติดอันดับการค้นหาใน Google ได้สูงๆ
นี่ก็เป็นข้อมูลของ Salepage สำหรับนำไปประกอบการสินใจ อย่างที่เห็นการมี Salepage มีผลดีหลายๆอย่างกับร้านค้าเเละธุรกิจหากใช้อย่างถูกหลักเเละมีความเข้าใจ
หากต้องใช้ Salepage เพื่อเป็นอีกช่องทางขายสินค้า หรือเป็นอีกทางเลือกใช้ทำการตลาดโดยเฉพาะนอกเหนือจากเว็บไซต์ที่มีอยู่เเล้ว สามารถสมัครใช้งาน Salepage ของ ConverrPage เพื่อทดลองฟรี 14 วันโดยไม่ผูกมัดก่อนได้เลย ที่นี่ https://cms.converrpage.com
